3 เหตุผลที่ Hardware remote access เหนือกว่า Software สำหรับการทำงานระยะไกล

การทำงานระยะไกลเติบโตขึ้นทุกวัน โซลูชันที่ใช้ซอฟต์แวร์ทั้งหมดเริ่มมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น แต่โซลูชันที่ใช้ฮาร์ดแวร์กลับสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาได้

การทำงานจากระยะไกลจากที่บ้าน หรือ Work From Home เริ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  อันเนื่องจากการระบาดของ Covid-19  ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการสำหรับการประชุมทางไกล (Video conference) ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญ  จากการวิเคราะห์ตลาด Video Conference ของ Fortune Business Insight พบว่า ขนาดตลาดการประชุมวิดีโอทางไกลทั่วโลกอยู่ที่ 3.02 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561 และคาดว่าจะสูงถึง 6.37 พันล้านดอลลาร์ในปี 2569 โดยมีอัตราการเติบโตรวม 9.8% ต่อปีในช่วงระยะเวลาคาดการณ์

แม้ว่าการทำงานที่บ้าน จะมีข้อดี ที่ช่วยหยุดการแพร์เชื้อ Covid-19 แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน  โดยทั่วไป บุคคลและองค์กรต่างหันไปใช้โซลูชันซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ก็จริง   แต่พวกเขาก็พบกับข้อเสียหลายอย่างของซอฟต์แวร์ ที่ไม่พบในโซลูชั่นแบบฮาร์ดแวร์   กล่าวโดยสรุป ความท้าทายหลักของโซลูชันการทำงานระยะไกลที่ใช้ซอฟต์แวร์เต็มรูปแบบ มีดังนี้:

ความท้าทายของซอฟต์แวร์ Remote Work

• ความปลอดภัย
• ความน่าเชื่อถือ
• ประสิทธิผลของงาน

ด้วย ATEN 1-Local/Remote Share Access Single Port DVI KVM over IP Switch ช่วยให้คุณเข้าถึงทรัพยากร HQ ได้โดยตรงจากที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ โซลูชันที่ใช้ฮาร์ดแวร์จึงช่วยรักษาข้อมูลและเวิร์กโฟลว์ของคุณให้ปลอดภัยตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งโซลูชันซอฟต์แวร์ไม่สามารถรับประกันได้

โซลูชันฮาร์ดแวร์ เช่น Single Port DVI KVM ผ่าน IP Switch ให้การเข้าถึงระดับ BIOS และนอกจากนี้ ไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เพิ่มเติมเพื่อให้ทำงานได้ สิ่งนี้ส่งผลให้ปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่าที่คอมพิวเตอร์ของคุณจะติดไวรัสหรือมัลแวร์ด้วยซอฟต์แวร์ดังกล่าว เส้นทางการเข้าถึงระยะไกลของฮาร์ดแวร์ ถูกแยกออกจากเครือข่ายการทำงานหลัก ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วไหลของข้อมูล ไม่มีแบ็คดอร์ และไม่มีทางที่แฮ็กเกอร์จะบุกรุกได้ ต่างกับ software remote access ที่ต้องติดตั้งลงใน PC/Server เครื่องนั้น ๆ เลยทำให้ต้องอยู่ใน network หลัก และต้องเปิด port ให้ user remote เข้ามาได้ด้วย จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่อาจทำให้ hacker เจาะเข้ามาได้

ด้วย KVM ดังกล่าว ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าถึงการบันทึกเหตุการณ์ที่บันทึกกิจกรรมทั้งหมด ในกรณีของกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต คุณลักษณะนี้จะทิ้งร่องรอยไว้ให้ผู้ดูแลระบบดู หรือมีการแจ้งเตือนไปยังอีเมล์ทันที ในทำนองเดียวกัน คุณสามารถเพิ่มระบบ ซอฟต์แวร์บันทึกวิดีโอเซสชัน (CCVSR) ให้ทำงานร่วมกับ KVM Over IP Switch สำหรับทั้งการตรวจสอบสดและการติดตามการทำงาน ด้วยวิธีนี้ ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบพอร์ต KVM หลายพอร์ตแบบเรียลไทม์และติดตามความผิดปกติหรือเหตุฉุกเฉินใดๆ

โดยสรุปแล้ว อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สามารถให้การรักษาความปลอดภัยที่มากกว่าซอฟต์แวร์สำหรับการทำงานระยะไกล ต้องขอบคุณการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทโดยตรง ระดับ BIOS, การแยกเครือข่ายส่วนตัว กับเครือข่ายสาธาณะออกจากกัน, การลดความเสี่ยงในการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่มีไวรัส และการเฝ้าระวัง ตรวจสอบเซสชัน ที่ผู้ดูแลระบบสามารถติดตามการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตได้

ความน่าเชื่อถือ

ประสิทธิผลของงาน

ข้อกังวลหลักประการหนึ่งที่บริษัทใดๆ ที่มีพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลอาจมีอยู่คือเรื่องประสิทธิผล งานวิจัยบางชิ้นสนับสนุนแนวคิดที่ว่าการทำงานระยะไกลมักจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของทำงาน แต่ผลการศึกษาของ Gallup ปี 2017 พบว่าจะเป็นเช่นนั้นก็ต่อเมื่อพนักงานทำงานจากระยะไกลเป็นบางครั้ง หรือเกือบตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา การศึกษาพบว่ายังคงเหมาะสมที่สุดสำหรับพนักงานที่จะมีเวลาเจอหน้ากันเป็นครั้งคราวกับผู้จัดการ และเพื่อนร่วมงาน หากการพบกันแบบนั้นเป็นไปไม่ได้ โซลูชันที่ใช้ฮาร์ดแวร์ระยะไกลที่เชื่อถือได้อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดถัดไป นอกจากนี้ การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในสำนักงานได้อย่างน่าเชื่อถือสามารถช่วยลดหลุมพรางของแพลตฟอร์มการทำงานที่ใช้ซอฟต์แวร์ได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันของระบบปฏิบัติการพีซีรายใหญ่ ได้เห็นผู้ใช้รายงานการหยุดทำงาน การโหลดช้าที่ช้า ข้อความที่ไม่ถูกส่งออก เว็บแคมและไมโครโฟนไม่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม และแม้กระทั่งไม่มีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้เวิร์กโฟลว์ของใครบางคนช้าลงและทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัดสำหรับทุกคนที่พึ่งพาทางเลือกที่ใช้ซอฟต์แวร์ทั้งหมด

บทสรุป

การทำงานทางไกลโดยเฉพาะการทำงานจากที่บ้านกำลังกลายเป็นเรื่องปกติแบบใหม่ (New normal) สำหรับหลาย ๆ คน มีเพียง Google เท่านั้น ที่ทำให้พนักงานส่วนใหญ่สามารถทำงานจากที่บ้านได้จนถึงปี 2021 ด้วยเหตุนี้ การผสานรวมโซลูชันที่ใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพ แทนที่จะใช้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามเพียงอย่างเดียว อาจปูทางไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ความปลอดภัยของข้อมูล ความน่าเชื่อถือ และแม้กระทั่งประสิทธิภาพการทำงาน

Work from Home ปลอดภัยกว่า ด้วย Hardware remote access (KVM Over IP)

แยกจากเครื่องข่ายหลักได้อย่างสิ้นเชิง

• ควบคุมใช้งาน workstation ได้อย่างปลอดภัย
• จัดการเซิร์ฟเวอร์ และแก้ปัญหาได้ทันเวลา
• มอนิเตอร์และใช้งานเครื่องมือแพทย์ได้ทุกที่

ปลอดภัยขึ้นอีกระดับ

ด้วยอุปกรณ์เสริม KVM Over IP Console Station (KA8200 Series) ที่สามารถใช้เป็น Console แทน Notebook ได้ เพียงต่อจอ, คีย์บอร์ด, เมาส์ เข้ากับ Console station แล้วต่อเข้าเน็ตเวิร์ค ก็ remote ใช้งาน ATEN KVM Over IP ได้ทันที ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะมีการนำ Notebook ของผู้ใช้งานที่มี Virus หรือ Malware ติดมาด้วย นอกจากนี้ยังรองรับวิธีการเข้ารหัสข้อมูลแบบต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ถึงการปกป้องข้อมูลที่สำคัญสูงสุด KVM over IP Console Station สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ ๆ ต้องการการเข้าถึงทันที และให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เหมาะสำหรับการใช้งานต่าง ๆ เช่น สตูดิโอ สำนักงาน ศูนย์ข้อมูล สถานีกระจายเสียง ห้องควบคุม หรือห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังเครือข่ายคอมฯ (NOC)